บทบาทของ Vitamin C กับโรคภูมิแพ้

วิตามินซี (Vitamin C) หรือ กรดแอสคอร์บิก เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ในการสร้างหลอดเลือด กระดูกอ่อน รวมไปถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูก และยังมีความสำคัญในกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายอีกด้วย

วิตามินซี จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์จากมลพิษภายนอก เช่น ฝุ่นควัน แสงแดด รวมไปถึงอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็งและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมและกักเก็บธาตุเหล็กแก่ร่างกาย จะเห็นได้ว่าบทบาทของวิตามินซีมีมากมาย หากแต่ว่าร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตวิตามินซีได้เอง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับจากภายนอก เช่น  จากการรับประทานพืชตระกูลส้ม เบอร์รี่ มะเขือเทศ และผักโขม หรือการรับประทานอาหารเสริม

ดังที่เห็นในปัจจุบันมีการนำวิตามินซีมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของอาหารเสริมและเวชสำอางที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากคุณประโยชน์ในแง่ของการสร้างคอลลาเจนและบำรุงผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไข้หวัดและบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้เช่นเดียวกัน

 บทความนี้จะกล่าวถึงบทบาทของวิตามินซีที่มีความสัมพันธ์กับกลไกการเกิดภูมิแพ้ ซึ่งจะช่วยลดอาการบวม อักเสบ และอาการที่เกี่ยวข้องในบริเวณที่เกิดการแพ้ โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กับสิ่งภายนอกที่มากระตุ้นให้เกิดการแพ้ (allergen) เช่น เกสรดอกไม้ สะเก็ดรังแคสัตว์ และฝุ่นละอองในอากาศ เป็นต้น เมื่อร่างกายสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ จะสร้างสารฮิสตามีนเพื่อขัดขวางสิ่งกระตุ้น จึงทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ คือ คันจมูก จาม มีผื่นคัน มีน้ำตาไหล ตาแดง หรืออาจเกิดการแพ้ที่รุนแรงทำให้หายใจไม่ออก (anaphylaxis) ในผู้ป่วยบางราย อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยาแก้แพ้ซึ่งจะขัดขวางการทำงานของฮีสตามีน ที่อาจมาพร้อมอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อยคือ อาการง่วงนอน ซึ่งวิตามินซีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านฮีสตามีนโดยธรรมชาติจะมีกลไกที่แตกต่างจากยาแก้แพ้โดยจะลดการสร้างฮีสตามีนของร่างกายได้ประมาณ 38% หากรับประทานในปริมาณที่สูง 2000 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซียังช่วยป้องกันเซลล์ปอดไม่ให้ถูกทำลายซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้

ขนาดของวิตามินซีที่แนะนำในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ขนาดของวิตามินซีที่แนะนำในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและบรรเทาอาการภูมิแพ้ขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วย ดังแสดงในตาราง

อายุขนาดสูงสุดที่แนะนำให้ปรับประทานต่อวัน
1-3 ปี400 มิลลิกรัม
4-8 ปี650 มิลลิกรัม
9-13 ปี1,200 มิลลิกรัม
14-18 ปี1,800 มิลลิกรัม
19 ปีขึ้นไป2,000 มิลลิกรัม

ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันทั่วไป

ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน (recommended dietary allowance) อยู่ที่ 15-90 มิลลิกรัม/วันเนื่องจากวิตามินซีไม่สะสมในร่างกายและสามารถขับออกได้ทางปัสสาวะ จึงมีความปลอดภัยหากบริโภคในปริมาณที่สูงกว่าที่แนะนำต่อวัน แต่ไม่ควรใช้ในขนาดที่สูงกว่า 2000 มิลลิกรัม/วัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียได้  และด้วยการดูดซึมที่มีอย่างจำกัด หากรับประทานวิตามินซี 1000มิลลิกรัม  ร่างกายจะดูดซึมได้เพียง 50% เท่านั้น การแบ่งรับประทานทีละน้อยวันละหลายครั้งและดื่มน้ำเยอะๆจะช่วยลดผลข้างเคียงรวมไปถึงเพิ่มการดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกาย

การรักษาโรคภูมิแพ้โดยการใช้ยาอาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทุกคน เนื่องจากผลข้างเคียงจากยาที่เกิดขึ้น เช่น มีอาการเหนื่อย ง่วงนอน รวมไปถึงอาจจะทำให้ปัสสาวะลำบากอาจมีผลต่อการใช้ยาของผู้ป่วย วิตามินซีในขนาดสูงจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการและความรุนแรงของโรคภูมิแพ้ รวมถึงต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ในร่างกาย ช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การรับประทานวิตามินซีปริมาณสูงในช่วงที่มีความเสี่ยงจะเกิดภูมิแพ้ จะช่วยลดการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอกโดยการลดการสร้างสารฮีสตามีนของร่างกายได้ แม้ว่าวิตามินซีจะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย และเกิดผลข้างเคียงน้อยหากรับประทานอย่างถูกวิธี การใช้ในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวและใช้ยาอื่นร่วมด้วย ควรปรึกษาบุลคลากรทางการแพทย์ก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อความปลอดภัย

เรียบเรียงโดย ภญ.มัณฑนา ไล่ชะพิษ

Reference

  1. Pruthi S.[Internet]. Vitamin C [updated 2020 May 17; cited 2022 Feb 19]. Available from: https://www.mayoclinic.org/.
  2. ณัฐฐา ตังควัฒนกุล พ.บ., พิมพา ตันธนศรีกุล พ.บ. สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์. บทบาทวิตามินซีต่อผิวหนัง. j dept med ser [Internet]. [updated 2019 Jun 1; cited 2022 Feb 19];44(3):7-8. Available from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/JDMS/article/view/246760
  3. Danahy A.[Internet]. Vitamin C for Allergies: Effectiveness, Uses, and Precautions [updated 2021 March 2; cited 2022 Feb 19]. Available from: https://www.healthline.com/.
  4. Patel P. [Internet]. How Vitamin C Helps with Seasonal Allergies [updated 2020 June 17; cited 2022 Feb 19]. Available from: https://www.healthline.com/.